บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ อีกหนึ่งคณะยอดฮิตของรั้วจุฬาฯ นั่นคือ BALAC CU หรืออักษรศาสตร์ ภาคอินเตอร์นั่นเอง ซึ่งในบทความนี้พี่แบงค์ TUTORRUS จะมาช่วยแนะนำน้อง ๆ ในฐานะรุ่นพี่เกียรตินิยมจาก BALAC, หนึ่งในทีมพัฒนาหลักสูตร BALAC CU ที่น้อง ๆ จะได้ใช้เข้าเรียนในมหา'ลัย และที่สำคัญเป็นติวเตอร์ติวสอบตรงเข้า BALAC CU เฉพาะทางที่สถาบัน TUTORRUS ถ้าพร้อมแล้ว ไปตอบ Q&A คำถามยอดฮิตสำหรับคนอยากเข้า BALAC CU กันเลย!
BALAC CU คืออะไร?
BALAC คือ Bachelor of Arts in Language and Culture หรือเอกวัฒนธรรมศึกษา หลักสูตรนานาชาติของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สิ่งที่เรียนคือเรียนการความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยต่าง ๆ ในสังคมและความเชื่อมโยง/สื่อสารกันทางความคิดในสังคมครับ
อาจจะฟังดูหลักลอยและจับต้องยาก แต่ว่าถ้าได้ลองมาเรียนที่ BALAC CU จะรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เลยนะ เราจะได้รู้ว่าสังคมมีคนที่ลำบากเรื่องไม่เหมือนกับเรา มีโครงสร้างทางสังคมที่เราใช้ชีวิตกันอยู่เป็นปรกตินี่แหละที่มันไปกดทับและเบียดเบียนคนบางกลุ่มให้เขาหลุดออกจากภาพหลักของสังคมไป ทั้งคนที่เป็นคนผิวสี LGBTQIA+ คนต่างชาติต่างภาษาและอื่น ๆ อีกมากมาย แล้วเราจะไปเอาความเข้าใจทางสังคมพวกนี้มาจากไหนดี ก็อ่านจากนิยาย วรรณคดี เพลง อาหาร บทกวี ประวัติศาสตร์ ละคร หนัง ฯลฯ ต่าง ๆ เหล่านี้แหละ BALAC CU จะมีวิชาที่คัฟเวอร์อะไรพวกนี้หมดเลย เป็นแบบทฤษฎีเชิงลึกด้วยนะ ถ้าใครสนใจแนวนี้รับรองว่าเปรมแน่นอนครับ
หลายคนอาจจะถามว่า “อ้าวพี่แบงค์ ไหนว่าอักษร จุฬาฯ เรียนภาษาไง” 55555555
อันนี้มันก็ใช่ครับ คือภาษามันก็เป็นรากฐานของสิ่งที่กล่าวมาข้างบนนี้เนอะ แต่อยากให้เรียกว่า อักษร จุฬาฯ เรียนการสื่อสารมากกว่า เพราะสุดท้ายเป้าหมายของภาษาก็คือการส่งสาร ส่งผ่านความคิดในศีรษะของเราไปสู่สิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งสิ่ง แต่ก็แล้วแต่ว่าจะสื่อสารออกมายังไงเนอะ อันที่ง่ายที่สุดน่าจะเป็นภาษา อย่างแบบ พวกกลอน กาพย์ นิราศ จนกระทั่งถึงเพลง ถึงอาหาร อะไรพวกนี้มันก็มีความหมายฝาก มีความลุ่มลึกทางวัฒนธรรมอยู่ในตัวมันเอง เรียน ๆ อักษร จุฬาฯ อินเตอร์หรือ BALAC CU ไปเค้าก็จะสอนให้มองให้ลึกลงไปในความหมายอะไรพวกนี้ อาจจะฟังดูลิเกแต่พี่ว่ามันมีความ Romantic อยู่นะ ความสามารถในการเข้าใจอะไรอย่างลึกซึ้งมาก ๆ แบบเราก็จะมองอะไรลึกกว่าอื่น ๆ ที่ไม่ได้เรียนด้านนี้มาอยู่บ้างพอสมควร
ความทรงจำเดียวที่จำได้แม่นคืออ่าน Brokeback Mountain ที่เป็นเรื่องของหนุ่มคาวบอยสองคนที่กิ๊กกัน ทั้งคู่มีเมียอยู่แล้ว เพราะความที่สั่งคมไม่ยอมรับความเป็นเกย์อะไรอย่างเงี้ย มันก็เลยค่อนข้างจะต้องเป็นความลับ แล้วทีนี้คนนึงก็ตาย เหมือนจะตายเพราะคนรู้ว่าเป็นเกย์นี่แหละ เลยถูกฆ่า แล้วอีกคนก็ขึ้นไปที่ห้องแล้วเข้าไปนั่งอยู่บนเตียงเงียบ ๆ แล้วลุกไปดมเสื้อ แล้วเค้าก็ร้องไห้ แล้วเราก็ร้องไห้ โอโห อินมาก 5555555555555 วิชาชื่อ Literature and Film คือเรียนเรื่องหนังสือที่เอามาทำเป็นหนัง แล้วก็เลยได้อ่านเรื่องนู้นเรื่องนี้ ซึ่งถ้าเราเป็นคนชอบอ่านหนังสืออยู่แล้วก็จะรู้ว่าบางทีเวอร์ชั่นหนังมันไม่ถึงอะไรทีหนังสือมันทำให้เรารู้สึกเนอะ ก็พบกับความอินต่าง ๆ เหล่านี้ได้ที่คณะนี้เลยจ้า
BALAC CU เรียนอะไร? มีกี่เอก?
BALAC CU มีเอกเดียวครับคือ วัฒนธรรมศึกษา จะเรียนตั้งแต่ ภาษา ประวัติศาสตร์ การละคร การดนตรี ไปจนถึงวิชาทฤษฎียาก ๆ เช่น Gender Studies, Postcolonial Theory, Theory of Cultural Studies ต่าง ๆ แต่ว่าวิชาที่แตกแยกไปก็คือวิชาโท ได้แก่ วิชาภาษา ปรกติแล้วจะเปิดตามจำนวนนักเรียน ตอนนี้มีนักเรียน 100 คนก็น่าจะเปิด 4 ภาษา จะมีวิชายืนพื้นสองวิชาภาษาเอเชียที่เปิดทุกปีคือจีนและญี่ปุ่น ส่วนภาษาฝั่งยุโรปอีกสองก็จะสลับไประหว่างฝรั่งเศส อิตาเลียน และสเปน ขึ้นอยู่กับว่านิสิตเลือกวิชาไหนเยอะที่สุดครับ คลาสก็ประมาณ 25-30 คน สอนตั้งแต่เริ่มต้นเลย คือไม่ต้องมีพื้นก็มาเรียนได้ อาจจะเป็นเฉพาะญี่ปุ่นที่รับแค่คนมีพื้นมาเพราะว่าไปค่อนข้างจะไว แล้วก็ทุกวิชาโทภาษามีให้ไปซัมเมอร์หรือแลกเปลี่ยนต่างประเทศด้วยเน้อ
สำหรับคนที่อินอยากเรียนเรื่องสังคม แต่ไม่ค่อยอินภาษา ทาง BALAC CU ก็เล็งเห็นว่ามีนักเรียนแบบนี้อยู่มาก จึงได้ทำการเปิดโทใหม่ขึ้นมาสองสาย ได้แก่ Media Cultures และ Global Cultures ซึ่งจะเรียนเรื่องวัฒนธรรมเพิ่มขึ้นให้เข้มข้นขึ้นกว่าเดิมไปอีก สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเชิญที่ https://www.arts.chula.ac.th/balac/index.php/curriculum/ เลยครับ
ส่วนภาษาอังกฤษก็มีสอนให้ก่อนพอสมควรครับ มีปูฟื้นฐานการทำ Research ให้ ว่าหาข้อมูลยังไง อะไรต่าง ๆ สอนวิชาอ่าน สอนวิชาเขียนให้เทอมละตัว (สมัยพี่นะ ไม่แน่ใจว่าตอนนี้มีเพิ่มหรือยัง) เข้าไปก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเคว้งแต่อย่างใด
BALAC CU เรียนยากไหม?
ยากบ้างง่ายบ้างแล้วแต่วิชาและความถนัด (และความขยันอ่านหนังสือ 55555555)
ต้องทำใจนิดนึงว่าวิชามันค่อนข้างหลากหลายนะครับ เข้ามาอาจจะไม่ได้ชอบทุกวิชา
แต่พี่เชื่อว่าถ้าตั้งใจอ่านหนังสือ หากลุ่มเพื่อนดี ๆ ช่วยกันติว มันรอดไปได้แหละ พี่เองเนี่ยเกลียดวิชาท่องจำมาก แต่ BALAC CU เนี่ยจำเป็นต้องเรียนประวัติศาสตร์ทุกเทอม ก็รอดมาได้เพราะเพื่อนช่วยติว ประวัติศาสตร์ชาติไทยตั้งแต่สุโขทัยยันเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 นี่ก็อัดกันมาแล้ว ประวัติศาสตร์ยุโรปตั้งแต่ Holy Roman Empire ถึงสงครามโลกครั้งที่สองก็พยายามมาแล้วครับ บอกเลยว่าเรียนที่ BALAC CU ไม่ยากเกินเอื้อม จริง ๆ มันสนุกมาก ๆ เลยนะ แถมยังมีวีดีโอสอนบน YouTube แบบเต็มสูบ ไม่เก็ทตรงไหนหาดูเองก็ยังได้!
BALAC CU จบไปทำอะไรได้?
เป็นคำถามโลกแตกแหละเนอะสำหรับสายอักษร จุฬาฯ หรือคนที่กำลังสนใจเข้าเรียน BALAC CU ส่วนตัวพี่มองว่า การที่เราไม่ต้องเรียนความรู้ที่มัน fixed มันจะทำให้เรามีอิสระมากขึ้น เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าอีกห้าปี สิบปี เราจะอยากได้อะไรเหมือนเดิมไหม เพราะงั้นการที่เราเรียนวิชาที่ให้ความรู้แบบกว้าง ๆ (ในกรณีที่เราไม่ได้มีแพชชั่นอะไรเฉพาะเจาะจง) มันก็น่าจะช่วยให้ทางเลือกของเราเปิดกว้างขึ้นนะครับ
เพราะงั้น บอกเลยว่าทำได้ทุกอย่างงงงงงงงงงงงง
มีใครทำอะไรแล้วไม่ต้องพูดไม่ต้องเจอคนบ้าง 5555555 เป็นได้ทุกอย่างเลย จบจาก BALAC CU ถ้าเอางานที่ใช้ภาษาก็ติวเตอร์ ไกด์ เที่ยวรอบโลกก็ยังได้ แถมยังมีบริษัทที่พร้อมจะรับเราเข้าไปทำงาน “ออฟฟิศ” ที่ต้องใช้ภาษาที่สามพร้อมเงินเดือนสตาร์ทแบบเร้าใจเด็กจบใหม่ด้วยนะ ใครสนใจหลังไมค์มาถามได้ 55555555
แต่ใครคิดว่าจบอักษร จุฬาฯ ใครจะรับเข้าทำงาน อันนี้บอกเลยว่าไม่จริงหางานได้แน่นอน แต่ต้องตั้งใจเรียนนะ!
อยากเข้า BALAC CU ต้องเตรียมตัวไง?
ใครที่ไม่ชอบอ่านหนังสือก็พยายามไปชอบดีกว่าครับ 555555555555 พี่มีวิธีมองแบบนี้ หนังสือมันก็เหมือนหนังเนอะ เหมือนซีรีส์ ที่มันพยายามจะสื่อสารกับเรา พยายามจะเล่าเรื่องให้เราฟังแหละ การที่เราอ่านหนังสือ มันก็เหมือนกับเรากระโจนเข้าไปอยู่ในโลกอีกใบ เหมือนกับตอนที่เราเข้าไปเป็น Spiderman ไปเป็น Captain America เป็น Black Panther หนังสือก็เหมือนกัน เราก็ได้เป็นตัวละครเอกในเรื่องที่เราชอบ เข้าไปเข้าใจอะไรที่เขาเข้าใจ เข้าไปสัมผัสอะไรที่เขาสัมผัส เราสามารถเริ่มอ่านจากนิยายก่อนได้ หรือหนังสือการ์ตูนก็ยังได้ อ่านเข้าไปเยอะ ๆ อ่านไปเรื่อย ๆ ครูพี่เคยพูดไว้ว่า ให้เราอ่านหนังสือไปให้หมด หนังสือดี หนังสือเลวยังไงก็คือหนังสือ อ่านเข้าไปยังไงก็มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย และข้อดีของการที่เราได้เริ่มอ่านจากนิยายก็คือ มันอ่านง่ายกว่า ทำให้เราไม่ย่อท้อเวลาเห็นจำนวนหน้า ถ้าเวลาอ่านประวัติศาสตร์เล่มหนา ๆ งี้ก็คิดเสียว่าเป็นนิยายเรื่องยาว เล่าเรื่องทวีปโน้นสู้กับทวีปนี้ไปเรื่อยแบบไม่ได้สรุปมาให้เราว่าใครเป็นพระเอกใครเป็นผู้ร้าย มันก็จะสนุกไปอีกแบบนึง
นอกเหนือจากนั้น สำหรับใครที่ชอบดูหนังดูซีรีส์ฟังเพลงอยู่แล้ว จะได้เปรียบมาก ๆ เพราะเวลาเราเรียนวิเคราะห์สื่อ ก็จะได้วิเคราะห์ภาพยนตร์ วิเคราะห์ Music Video วิเคราะห์ซีรีย์สเกาหลี (เอาจริง มีเพื่อนเขียนเรื่อง Coffee Prince ไปส่งก็ได้ A มาแล้วเด้อ) ที่สำคัญคือเราต้องรู้ว่าอะไรพวกนี้มันสร้างขึ้นมาเลียนแบบชีวิตจริงอะเนอะ เราก็จะได้เรียนรู้ว่า เอ้อ คนที่สร้าง เขาต้องมีภาพว่าชีวิตจริงมันต้องประกอบไปด้วยสิ่งใดบ้าง แล้วเราก็ค่อย ๆ ไปแกะความคิดของเขาออกมาว่าทำไมเขาจึงต้องมองว่าชีวิตจริงต้องมีอะไรแบบนี้ เช่น ทำไมทุกเรื่องมี romantic storyline การมีคู่ครอง การมีความรักเป็นแก่นสาร เป็นสารัตถะของชีวิตหรือเปล่า หรือว่าสังคมมันประกอบสร้างให้เราต้องไปวิ่งไล่ไขว่คว้าหามาให้ได้เพื่อจะขายอะไรให้กับเราสักอย่างหนึ่ง เป็นการชวนคิดจากการดูหนังดูละคร ประมาณนี้นั่นเอง
ส่วนการรับสมัครของ BALAC CU จะเปิดรับสมัครด้วยกันทั้งหมด 2 รอบ คือรอบ Early Admission และ Admission พราอยากจะบอกว่าการเตรียมตัวเข้ามหา'ลัย รวมถึง BALAC CU มีรายละเอียดยิบย่อยที่น้อง ๆ จะต้องเตรียมตัว พี่แนะนำว่าให้เตรียมล่วงหน้าไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะดีที่สุด
หากน้อง ๆ อยากรู้ว่า BALAC CU แต่ละรอบนั้นเตรียมตัวยังไง มีเกณฑ์หรือเงื่อนไขอะไรบ้างที่ทาง BALAC CU กำหนดมา สามารถดูที่ข้างล่างนี้ได้เลยนะครับ
คอร์สติวสอบเข้า BALAC CU by TUTORRUS ได้รวบรวมมาให้หมดแล้ว
ครบ จบ ทุกรอบ ทั้ง Interview เตรียมพร้อมสอบสัมภาษณ์จริง และ Written exam
Update เนื้อหาถึงวันสอบจริง สถิติ สอบติด 100% ยกคลาส
บทความที่เกี่ยวข้อง
Comments